Saturday, December 15, 2007

คุณธรรมนำความรู้

ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวในการมอบนโยบาย"การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ" ว่าปัจจุบันสังคมไทยอยู่ในขั้นวิกฤต จึงต้องปฏิรูปการปกครองกันใหม่ โดยเฉพาะในด้านคุณธรรมจริยธรรมเป็นเรื่องที่รัฐบาลเห็นว่ายังด้อยอยู่ ดังนั้น รัฐบาลจึงกำหนดเรื่องคุณธรรมเป็นเรื่องหลักในการให้การศึกษาแก่เยาวชน เพราะหากไม่เร่งทำอะไรให้ดีขึ้น อาจถึงขั้นทำให้สังคมล่มสลาย

"นโยบายการจัดการศึกษาของรัฐบาลชุดนี้กำหนดไว้ชัดว่าคุณธรรมนำความรู้ แทนความรู้คู่คุณธรรม พร้อมเน้นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความสมานฉันท์ สันติวิธี โดยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้คุณธรรมเป็นฐานจะต้องเชื่อมโยงกับ 3 สถาบัน คือครอบครัว สถานศึกษา และศาสนา หรือ "บวร" คือบ้าน วัด โรงเรียน อย่างไรก็ตาม ศธ.ได้กำหนดเป็นโครงการการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย ซึ่งจะเป็นแผนแม่บทในการศึกษาของไทย โดยมอบให้แต่ละหน่วยงาน และสถาบันการศึกษาพิจารณา และทบทวนสิ่งที่ทำอยู่แล้วว่ามีอะไร และมีสิ่งใหม่ที่จะเสริมเติมเต็ม โดยดึงเอาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นเครือข่าย รวมทั้งอาจต้องฟื้นกิจกรรมบางอย่าง เช่น กิจกรรมค่าย การบำเพ็ญประโยชน์ อาสาสมัคร เป็นต้น ในระดับอุดมศึกษา ต้องเป็นที่พึ่งให้กับการศึกษาในระดับอื่นๆ ในการให้ความรู้ความเข้าใจ และเป็นตัวอย่างการเสริมสร้างคุณธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะศึกษาศาสตร์ และครุศาสตร์"
1.สป.ศธ. จัดโครงการสอดรับนโยบายคุณธรรมนำความรู้
2.สพฐ. กับนโยบายคุณธรรมนำความรู้
3.ข่าว รมว.ศธ. บรรยายพิเศษ"คุณธรรมนำความรู้สู่สังคมแห่งสันติ"
4.ข่าว รมว.ศธ. คุณธรรมนำความรู้
5. ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงศึกษาธิการกับหลักสูตรคุณธรรม
6.คุยกันเรื่อง คุณธรรมนำความรู้และเศรษฐกิจพอเพียง
7.คุณธรรมนำความรู้ เอาชนะ ความรู้คู่คุณธรรมได้แน่หรือ ข่าวการศึกษา คุณธรรมนำความรู้ขับเคลื่อนการศึกษาแก้วิกฤตชาติ
8.ข่าว คุณธรรมนำความรู้สู่เศรษฐกิจพอเพียง
9.เสวนา "คุณธรรมนำความรู้"

ยุทธศาสตร์คุณธรรมนำความ
กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำนโยบายและกำหนดแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อเร่งรัดการปฏิรูปการศึกษาโดยยึดคุณธรรมนำความรู้ มุ่งมั่นที่จะขยายโอกาสทางการศึกษาของประชาชนให้กว้างขวางและทั่วถึง โดยคำนึงถึงการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ เสริมสร้างความตระหนักสำนึกในคุณค่าของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาคนโดยใช้คุณธรรมเป็นพื้นฐานของกระบวนการเรียนรู้ และเชื่อมโยงความร่วมมือของสถาบันครอบครัว สถาบันศาสนา และสถาบันการศึกษา
กลุ่มเป้าหมายแรกที่สำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ คือ นักเรียน นิสิต นักศึกษาในสถานศึกษา ประมาณ 15 ล้านคน ซึ่งถ้าทำได้ดีกับเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาก็จะขยายผลไปสู่สังคมในวงกว้างผ่านตัวนักเรียน นักศึกษาด้วย นอกจากนี้ ยังมีประชาชนที่อยู่ในการศึกษานอกระบบ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ผ่านกระบวนการศึกษาของการศึกษาตามอัธยาศัย
แนวทางปฏิบัติเพื่อสร้างเสริมคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย จะใช้ระบบเครือข่ายโดยยึดโรงเรียนเป็นพื้นฐาน หน่วยสำคัญที่สุดที่จะก่อให้เกิดผล คือสถานศึกษา เครือข่ายระดับต้น คือสถานศึกษาต้องเชื่อมโยงกับ ครอบครัว วัด หรือสถาบันทางศาสนา รวมถึงในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งจะมีเครือข่ายเสริมสร้าง คุณธรรมในระบบการศึกษาผ่านคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
กลไกเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือการสร้างวัฒนธรรมสถานศึกษา หรือวัฒนธรรมองค์กรใหม่ โดยนำคุณธรรมสำคัญๆ เข้าไปเป็นวิถีชีวิตของคนในสถานศึกษา หรือองค์กรนั้น และต้องดำเนินการอย่างครบวงจร เช่น การยึดหลักของคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ได้แก่ ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย สุภาพ สะอาด สามัคคี มีน้ำใจ และให้การศึกษาอบรม เพื่อให้ยึดเอาเรื่องเหล่านี้เป็นการประพฤติปฏิบัติตนในช่วงที่เด็ก และเยาวชนอยู่ในสถานศึกษา ครูและผู้บริหารก็ต้องปฏิบัติเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย จากนั้นติดตามดูว่าผลที่เกิดเชิงพฤติกรรมเป็นอย่างไร
การศึกษา จะเป็นปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนให้เป็นไปในแนวทางที่พึงปรารถนา เรื่อง "คุณธรรม" ไม่ได้วัดกันที่มีความรู้คุณธรรมมากน้อยแค่ไหน แต่ต้องวัดกันที่พฤติกรรมที่แสดงออกมา ที่เป็นส่วนหนึ่งของการยึดติดเป็นคุณค่าที่อยู่ในตัวตนของคนมากน้อยแค่ไหน และสิ่งนี้ไปกำกับให้มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความมีคุณธรรมมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่วิธีการ
การที่เด็กและเยาวชนได้ซึมซับ หรือเกิดความตระหนักในคุณธรรมนำความรู้ "สื่อมวลชน" จึงมีบทบาทที่สำคัญยิ่งที่จะเข้ามาร่วมกันพัฒนาการศึกษาและปลูกฝังคุณธรรม โดยการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับคุณงามความดีของบุคคลในด้านต่างๆ ของสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นตัวอย่าง หรือแบบอย่างที่ดี "รายการคุณพระช่วย" จึงเป็นช่องทางหนึ่ง เพื่อสร้างให้สังคมไทยเป็นสังคมคุณธรรมนำความรู้
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการจะเร่งดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคมให้การขับเคลื่อนสังคมไทยได้เป็นสังคมของคำว่า "คุณธรรมนำความรู้" อันจะส่งผลให้เด็กและเยาวชนของชาติเติบโตขึ้นมาบนฐานของคุณธรรมได้อย่างแท้จริง ประเทศชาติเกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนตลอดไป

No comments: